วันอังคารที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2554

พุทธอุทาน



พุทธอุทาน

            ภิกษุทั้งหลาย  !  วิตก ที่หยาบ และวิตกที่ละเอียดเป็นไปแล้ว ทำใจให้ฟุ้งซ่าน บุคคลผู้มีจิตสับสนไม่รู้วิตกแห่งใจเหล่านี้   ย่อมแล่นไปสู่ภพน้อย ภพใหญ่     

ส่วน ผู้ที่มีความเพียรระวัง  มีสติอยู่เสมอ  รู้เท่าทันวิตกที่เกิดแก่จิตเหล่านี้  ย่อมสำรวมระวัง  บุคคลผู้ตรัสรู้แล้วเท่านั้น  ย่อมละวิตกที่เป็นไปแล้ว ที่ทำใจให้ฟุ้งซ่านได้โดยไม่เหลือ

          ภิกษุผู้ไม่รักษากาย  มีความเห็นผิด  ถูกถีนมิทธะครอบงำ  ย่อมไปสู่อำนาจมาร   เพราะฉะนั้น ภิกษุควรรักษาจิต   มีความดำริชอบเป็นอารมณ์  มุ่งความเห็นชอบเป็นสำคัญ  รู้ความเกิดขึ้น และความเสื่อมไปของเบญจขันธ์  ครอบงำถีนมิทธะได้   ก็สามารถละทุคติได้ทั้งหมด

          จิตของใครตั้งมั่น ไม่หวั่นไหวดุจภูเขา  ไม่กำหนัดในอารมณ์อันชวนให้กำหนัด  ไม่ขัดเคืองในอารมณ์อันชวนให้ขัดเคือง  ผู้ใดอบรมจิตได้อย่างนี้  ทุกข์จะมาถึงผู้นั้นแต่ไหน

การ ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ก็นับว่ายาก  การดำรงชีวิตอยู่ของเหล่าสัตว์ก็นับว่ายาก  การที่จะได้ฟังสัทธรรมก็นับว่ายาก   การที่พระพุทธเจ้าทั้งหลายจะเสด็จอุบัติขึ้นในโลกก็ยิ่งยาก

บุคคล ตั้งใจค้นหาทั่วทุกทิศ  ก็ไม่พบใครเป็นที่รักยิ่งกว่าตนในที่ไหนๆ เลย  สัตว์ทั้งหลายเหล่าอื่น ก็รักตนมากเช่นนั้นเหมือนกัน  เพราะฉะนั้น  ผู้รักตนจึงไม่ควรเบียดเบียนผู้อื่น

ถ้า เธอทั้งหลายกลัวความทุกข์  ถ้าความทุกข์ไม่เป็นที่รักของเธอทั้งหลาย  ก็อย่าทำบาปกรรมในที่แจ้ง หรือทำบาปกรรมในที่ลับ  เพราะถ้าเธอทั้งหลายจักทำหรือกำลังทำบาปอยู่  ถึงจะเหาะหนี เธอย่อมไม่พ้นจากทุกข์ไปได้

          บุคคล หลุดพ้นแล้วในธรรมทั้งปวง ทั้งชั้นสูงและชั้นต่ำ  ไม่หลงเข้าใจว่า  นี้เป็นของเรา  นี้เป็นตัวเรา มีจิตหลุดพ้นโดยเด็ดขาดอย่างนี้  ชื่อว่าข้ามพ้นโอฆะ  ที่ตนยังไม่เคยข้ามได้  ไม่ต้องมีภพใหม่อีก

          ญาณทำให้เหือดแห้งแล้ว  จึงไหลไปอีกไม่ได้  วัฏฏะที่ตัดได้แล้ว  ย่อมไม่หมุนวนได้อีก  สภาพนี้แหละ คือความสิ้นสุดแห่งทุกข์

          สัตว์ทั้งหลายมืดมนเพราะกาม  ถูกข่ายรัดรึงไว้แน่น  ถูกเครื่องมุงบัง คือตัณหาปกคลุมไว้ ถูกเครื่องผูกคือความประมาทผูกพันไว้  เหมือนปลาในข้อง  สัตว์เหล่านั้น  จึงไปสู่ความแก่ และความตาย  เหมือนลูกโคที่ยังไม่อดนม  วิ่งตามแม่โค  ฉันนั้น

          เราได้รู้ธรรมที่ควรรู้ยิ่ง ได้เจริญธรรมที่ควรเจริญ ได้ละธรรมที่ควรละได้แล้ว   เพราะฉะนั้นเราจึงเป็นพระพุทธเจ้า  เป็นหมอผ่าตัดลูกศร คือ กิเลสชั้นเยี่ยม

เราเป็นผู้ประเสริฐสุด  ไม่มีผู้เปรียบเทียบ  ย่ำยีมาร  และเสนามารได้  ควบคุมอมิตรทั้งปวงไว้ในอำนาจ  ไม่มีภัยจากที่ไหน เบิกบานอยู่

ไม่มีธรรมอื่นที่จะมีอุปการะมาก  แก่ภิกษุผู้เป็นพระเสขะ เพื่อการบรรลุประโยชน์สูงสุด  เหมือนกับโยนิโสมนสิการ  เพราะภิกษุเมื่อเริ่มตั้งความเพียร ด้วยโยนิโสมนสิการไว้  ก็พึงบรรลุความสิ้นทุกข์ได้

คนจะข้ามโอฆะได้ด้วยศรัทธา  จะข้ามห้วงมหรรณพได้ด้วยความไม่ประมาท  จะล่วงทุกข์ได้ด้วยความเพียร  และจะบริสุทธิ์ได้ด้วยปัญญา

ยิ่งปิดยิ่งรั่ว  เปิดแล้วไม่รั่ว  เพราะฉะนั้น  พึงเปิดสิ่งที่ปิด  เมื่อเป็นดังนี้  สิ่งที่เปิดนั้นก็จะไม่รั่ว




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น