วันอังคารที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2555

เพราะชื่นชมจึงถูกเคี้ยวกิน


เพราะชื่นชมจึงถูกเคี้ยวกิน

การชื่นชม รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ในปัจจุบัน และในอนาคต อาศัยรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ในอดีต เปรียบเสมือนถูก รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณเคี้ยวกินอยู่

การพิจารณาเห็นว่าเราถูก รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณในปัจจุบัน เคี้ยวกินอยู่อย่างนี้แล้ว ไม่มีความอาลัยในรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ที่เป็นอดีต ไม่ชื่นชมรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ในอนาคต ปฏิบัติเพื่อความเบื่อหน่าย คลายกำหนัด เพื่อดับ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ที่เป็นปัจจุบัน

บัดนี้เราถูก รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เคี้ยวกินอยู่ แม้ในอดีตกาล เราก็ถูกรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เคี้ยวกินแล้ว เหมือนกับถูก รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เคี้ยวกินอยู่ในเวลานี้

ก็เราเองพึงชื่นชมรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณที่เป็นอนาคต แม้ในอนาคตกาล เราก็พึงถูกรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณเคี้ยวกินอยู่ในเวลานี้

เธอพิจารณาเห็นอย่างนี้แล้ว ไม่มีความอาลัย ใน รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณที่เป็นอดีต ไม่ชื่นชม รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณที่เป็นอนาคต ปฏิบัติเพื่อความเบื่อหน่าย คลายกำหนัด เพื่อดับรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณที่เป็นปัจจุบัน

เพราะรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ทั้งอดีต อนาคต ปัจจุบัน ภายใน หรือภายนอก หยาบหรือละเอียด เลวหรือประณีต ไกลหรือใกล้ก็ตาม รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ทั้งหมดนั้น เธอทั้งหลายพึงเห็นด้วยปัญญาอันชอบ ตามความเป็นจริงอย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา เราไม่เป็นนั่น  นั่นไม่ใช่อัตตาของเรา

อริยสาวกควรทำรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ให้พินาศ ไม่ก่อ ละทิ้ง ไม่ถือมั่น ไม่เรี่ยราย ไม่รวบรวมไว้ ทำให้มอด ไม่ก่อให้ลุกโพลงขึ้นอีก





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น