ธรรมที่นำสัตว์ไปกำเนิดในสวรรค์
ภิกษุทั้งหลาย ! บุคคลประกอบด้วยธรรม 40 ประการ ย่อมดำรงอยู่ในสวรรค์
เหมือนได้รับอัญเชิญไปประดิษฐานไว้ ได้แก่
1. ตนเองเป็นผู้เว้นขาดจากการฆ่าสัตว์
2. ชักชวนผู้อื่นให้งดเว้นจากการฆ่าสัตว์
3. เป็นผู้พอใจงดเว้นจากการฆ่าสัตว์
4. สรรเสริญการงดเว้นจากการฆ่าสัตว์
5. ตนเองเป็นผู้เว้นขาดจากการลักทรัพย์
6. ชักชวนผู้อื่นให้งดเว้นจากการลักทรัพย์
7. เป็นผู้พอใจการงดเว้นจากการลักทรัพย์
8.
สรรเสริญการงดเว้นจากการลักทรัพย์
9. ตนเองเป็นผู้เว้นขาดจากการประพฤติผิดในกาม
10.ชักชวนผู้อื่นให้งดเว้นจากการประพฤติผิดในกาม
11.เป็นผู้พอใจการงดเว้นจากการประพฤติผิดในกาม
12.
สรรเสริญการงดเว้นจากการประพฤติผิดในกาม
13. ตนเองเป็นผู้เว้นขาดจากการพูดเท็จ
14. ชักชวนผู้อื่นให้งดเว้นจากการพูดเท็จ
15. เป็นผู้พอใจการงดเว้นจากการพูดเท็จ
16.
สรรเสริญการงดเว้นจากการพูดเท็จ
17. ตนเองเป็นผู้เว้นขาดจากการพูดส่อเสียด
18. ชักชวนผู้อื่นให้งดเว้นจากการพูดส่อเสียด
19. เป็นผู้พอใจการงดเว้นจากการพูดส่อเสียด
20.
สรรเสริญการงดเว้นจากการพูดส่อเสียด
21. ตนเองเป็นผู้เว้นขาดจากการพูดหยาบคาย
22. ชักชวนผู้อื่นให้งดเว้นจากการพูดหยาบคาย
23. เป็นผู้พอใจการงดเว้นจากการพูดหยาบคาย
24.
สรรเสริญการงดเว้นจากการพูดหยาบคาย
25. ตนเองเป็นผู้เว้นขาดจากการพูดเพ้อเจ้อ
26. ชักชวนผู้อื่นให้งดเว้นจากการพูดเพ้อเจ้อ
27. เป็นผู้พอใจการงดเว้นจากการพูดเพ้อเจ้อ
28.
สรรเสริญการงดเว้นจากการพูดเพ้อเจ้อ
29. ตนเองป็นผู้ไม่เพ่งเล็งอยากได้ของเขา
30. ชักชวนผู้อื่นไม่ให้เพ่งเล็งอยากได้ของเขา
31. เป็นผู้พอใจการไม่เพ่งเล็งอยากได้ของเขา
32.
สรรเสริญการไม่เพ่งเล็งอยากได้ของเขา
33. ตนเองเป็นผู้มีจิตไม่พยาบาท
34. ชักชวนผู้อื่นให้มีจิตไม่พยาบาท
35. เป็นผู้พอใจการมีจิตไม่พยาบาท
36.
สรรเสริญการมีจิตไม่พยาบาท
37. ตนเองเป็นสัมมาทิฏฐิ
38. ชักชวนผู้อื่นให้เป็นสัมมาทิฏฐิ
39. เป็นผู้พอใจการเป็นสัมมาทิฏฐิ
40. สรรเสริญการเป็นสัมมาทิฏฐิ
(สัมมาทิฎฐิ คือ มีความเห็นชอบตามทำนองคลองธรรม)
ธรรมที่นำสัตว์ไปกำเนิดในนรก
ภิกษุทั้งหลาย ! บุคคลประกอบด้วยธรรม 40 ประการ ย่อมดำรงอยู่ในนรก เหมือนถูกนำไปฝังไว้ ได้แก่
1. ตนเองเป็นผู้ฆ่าสัตว์
2. ชักชวนผู้อื่นให้ฆ่าสัตว์
3. เป็นผู้พอใจการฆ่าสัตว์
4.
สรรเสริญการฆ่าสัตว์
5. ตนเองเป็นผู้ลักทรัพย์
6. ชักชวนผู้อื่นให้ลักทรัพย์
7. เป็นผู้พอใจการลักทรัพย์
8.
สรรเสริญการลักทรัพย์
9. ตนเองเป็นผู้ประพฤติผิดในกาม
10. ชักชวนผู้อื่นให้ประพฤติผิดในกาม
11. เป็นผู้พอใจการประพฤติผิดในกาม
12.
สรรเสริญการประพฤติผิดในกาม
13. ตนเองเป็นผู้พูดเท็จ
14. ชักชวนผู้อื่นให้พูดเท็จ
15. เป็นผู้พอใจการพูดเท็จ
16.
สรรเสริญการพูดเท็จ
17. ตนเองเป็นผู้พูดส่อเสียด
18. ชักชวนผู้อื่นให้พูดส่อเสียด
19. เป็นผู้พอใจการพูดส่อเสียด
20.
สรรเสริญการพูดส่อเสียด
21. ตนเองเป็นผู้พูดหยาบคาย
22. ชักชวนผู้อื่นให้พูดหยาบคาย
23. เป็นผู้พอใจการพูดหยาบคาย
24.
สรรเสริญการพูดหยาบคาย
25. ตนเองเป็นผู้พูดเพ้อเจ้อ
26. ชักชวนผู้อื่นให้พูดเพ้อเจ้อ
27. เป็นผู้พอใจการพูดเพ้อเจ้อ
28.
สรรเสริญการพูดเพ้อเจ้อ
29. ตนเองเป็นผู้เพ่งเล็งอยากได้ของเขา
30. ชักชวนผู้อื่นให้เพ่งเล็งอยากได้ของเขา
31. เป็นผู้พอใจการเพ่งเล็งอยากได้ของเขา
32.สรรเสริญการเพ่งเล็งอยากได้ของเขา
33. ตนเองเป็นผู้มีจิตพยาบาท
34. ชักชวนผู้อื่นให้มีจิตพยาบาท
35. เป็นผู้พอใจการมีจิตพยาบาท
36.
สรรเสริญการมีจิตพยาบาท
37. ตนเองเป็นมิจฉาทิฏฐิ
38. ชักชวนผู้อื่นให้เป็นมิจฉาทิฏฐิ
39. เป็นผู้พอใจการเป็นมิจฉาทิฏฐิ
40.
สรรเสริญการเป็นมิจฉาทิฏฐิ
(มิจฉาทิฏฐิ คือมีความเห็นผิดจากทำนองคลองธรรม)
(จาก..หนังสือพระไตรปิฎก ภาษาไทย
ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พุทธศักราช ๒๕๓๙ เล่ม ๒๔)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น