ญาณในมหากรุณาสมาบัติ
(โดยสรุป)
พระผู้มีพระภาคเจ้าทั้งหลายตรัสรู้แล้ว
ทรงพิจารณาเห็นด้วยอาการเป็นอันมาก จึงแผ่พระมหากรุณาไปในหมู่สัตว์ คือ
ทรงพิจารณาเห็นว่า
โลกสันนิวาส อันไฟลุกโชนแล้ว, ยกพลแล้ว ฯลฯ เคลื่อนพลแล้ว ฯลฯ เดินทางผิดแล้ว ฯลฯ โลกถูกชรานำไปแล้วไม่ยั่งยืน
ฯลฯ โลกไม่มีอะไรต้านทาน ไม่เป็นใหญ่ ฯลฯ โลกไม่มีอะไรเป็นของตน
จำต้องละสิ่งทั้งปวงไป ฯลฯ โลกพร่อง ไม่รู้จักอิ่ม เป็นทาสแห่งตัณหา ฯลฯ
ไม่มีที่เร้น ฯลฯ ไม่มีที่พึ่ง ฯลฯ ไม่เป็นที่พึ่งของใคร ฯลฯ โลกฟุ้งซ่านไม่สงบ
ฯลฯ ไม่มีอะไรต้านทาน ถูกลูกศรเป็นอันมากเสียมแทงแล้ว ฯลฯ มีความมืด คืออวิชชา
ปิดกั้นไว้ ฯลฯ ถูกขังไว้ในกรงกิเลส ฯลฯ ใครอื่นนอกจากเรา จะเป็นผู้ช่วย ฯลฯ โลกสันนิวาสนั้นได้ เป็นไม่มี ฯ ลฯ
โลกสันนิวาส ตกอยู่ใต้อำนาจของอวิชชา มืดมน อันอวิชชาห่อหุ้มไว้ ไม่ล่วงพ้นสงสาร
คือ อบาย ทุคติ และวินิบาต ถูกยาพิษที่มีโทษ คือ อวิชชาฉาบทาไว้หนาแน่นแล้ว, มีกิเลสเป็นโทษ ฯลฯ รกชัฏด้วยราคะ โทสะ และโมหะ ฯลฯ ใครอื่นนอกจากเรา จะเป็นผู้ช่วย ฯลฯ โลกสันนิวาสนั้นได้ เป็นไม่มี ฯลฯ
โลกสันนิวาส ถูกกองตัณหาสุมไว้ ฯลฯ ถูกข่ายคือตัณหาครอบไว้ ฯลฯ
ถูกกระแสตัณหาพัดไป ฯลฯ ถูกตัณหาเครื่องข้องคล้องไว้ ฯลฯ ซ่านไปเพราะตัณหาอนุสัย
ฯลฯ เดือดร้อน และเร่าร้อนเพราะตัณหา ฯลฯ ใครอื่นนอกจากเรา จะเป็นผู้ช่วย ฯลฯ โลกสันนิวาสนั้นได้ เป็นไม่มี ฯลฯ
โลกสันนิวาส ถูกกองทิฏฐิสุมไว้ ฯลฯ ถูกข่ายคือทิฏฐิครอบไว้ถูกกระแสทิฏฐิพัดไป
ฯลฯ ถูกทิฏฐิเครื่องข้องคล้องไว้ ฯลฯ ซ่านไปเพราะทิฏฐิอนุสัย ฯลฯ เดือดร้อน
และเร่าร้อนเพราะทิฏฐิ ฯลฯ ใครอื่นนอกจากเรา
จะเป็นผู้ช่วย ฯลฯ
โลกสันนิวาสนั้นได้ เป็นไม่มี ฯลฯ
โลกสันนิวาส ถูกชาติติดตาม ฯลฯ ถูกชราติดตาม ฯลฯ ถูกพยาธิครอบงำ ฯลฯ
ถูกมรณะห้ำหั่น ฯลฯ ตกอยู่ในกองทุกข์ ฯลฯ ถูกตัณหาดักไว้ ฯลฯ ถูกชราล้อมไว้
ถูกบ่วงมัจจุราชคล้องไว้ ฯลฯ ถูกเครื่องผูก คือราคะโทสะ โมหะ มานะ ทิฏฐิ กิเลส
ผูกไว้ ฯลฯ ใครอื่นนอกจากเรา
จะเป็นผู้ช่วย ฯลฯ
โลกสันนิวาสนั้นได้ เป็นไม่มี ฯลฯ
โลกสันนิวาส เป็นโลกบอด ไม่มีจักษุ ฯลฯ มีจักษุเสื่อมไป ไม่มีผู้นำ
ฯลฯ แล่นไปสู่ทางผิด หลงทางแล้ว แล่นไปสู่ห้วงโมหะ ใครอื่นนอกจากเรา จะเป็นผู้ช่วยนำพามาสู่ทางอริยะ และช่วยฉุดให้พ้น จากห้วงโมหะได้นั้น ไม่มี
โลกสันนิวาส ถูกไฟ คือ ราคะ โทสะ โมหะ ชาติ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ
ทุกข์ โทมนัส อุปายาสะกระทบแล้ว ใครอื่นนอกจากเรา จะเป็นผู้ช่วยดับไฟเหล่านั้น
ให้แก่โลกสันนิวาสนั้นได้ เป็นไม่มี” ฯลฯ
พระผู้มีพระภาคเจ้าทั้งหลายตรัสรู้แล้ว
ทรงพิจารณาเห็นว่า เราเป็นผู้ข้ามได้แล้ว แต่สัตว์ยังข้ามไม่ได้ เราเป็นผู้พ้นแล้ว
แต่สัตว์ยังไม่พ้น เราเป็นผู้ฝึกแล้ว แต่สัตว์ยังไม่ได้ฝึก เราเป็นผู้สงบแล้ว
แต่สัตว์ยังไม่สงบ เราเป็นผู้เบาใจแล้ว แต่สัตว์ยังไม่เบาใจ เราเป็นผู้ดับรอบแล้ว
แต่สัตว์ยังไม่ดับรอบ
เราเป็นผู้ข้ามได้แล้ว
จะให้สัตว์ข้ามได้ด้วย เราเป็นผู้พ้นแล้ว
จะให้สัตว์พ้นได้ด้วย
เราเป็นผู้ฝึกแล้ว จะฝึกสัตว์โลกได้ด้วย เราเป็นผู้สงบแล้ว จะให้สัตว์โลกสงบได้ด้วย เราเป็นผู้เบาใจแล้ว จะให้สัตว์โลกเบาใจได้ด้วย เราเป็นผู้ดับสนิทแล้ว จะให้สัตว์โลกสนิทได้ด้วย จึงแผ่พระมหากรุณาไปในหมู่สัตว์ นี้เป็นญาณ
ในมหากรุณาสมาบัติของพระตถาคตเจ้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น